สมาชิก login
ชื่อ:
รหัส:
 ค้นหารถโดยใช้รหัสรถยนต์

< คลิกวิธีดูรหัส

 ค้นหารถมือสอง
ประเภท:
ยี่ห้อ:
รุ่น:
แบบ:
สี:
ปี:
ช่วง:
ราคา:

 รถมือสองทั้งหมด
รวมรถมือสอง TOYOTA TOYOTA


จอดติดไฟแดง ควรเข้าเกียร์ N หรือ D กันแน่?
        ทำให้ผมคิดได้ว่า คำถามยอดฮิต ที่เราได้รับมา ตลอดระยเวลาที่ซ่อมเกียร์อัตโนมัติ
นั่นก็คือ เวลาจอดติดไฟแดง ควรจะเข้าเกียร์ ทิ้งไว้ในตำแหน่ง N หรือ D กันแน่

            อันที่จริง ผมอยากจะเริ่มอธิบายกันตั้งแต่ ลักษณะการทำงานของเกียร์อัตโนมัติ กันเลยทีเดียว แต่ในเมื่อ มีคุณผู้อ่านสงสัยในประเด็นนี้กันเป็นมาก  ดังนั้น จึงอยากจะให้คำแนะนำ รวมทั้งชี้ให้เห็น การทำงานของเกียร์อัตโนมัติ ในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้ ให้ทราบเป็นเบื้องต้นกันก่อน  แล้วจึงค่อยเรียนรู้ในเรื่องต่างๆเกี่ยวกับเกียร์อัตโนมัติในภายหลังจากนี้

ทำไมคุณถึงไม่ควรเปลี่ยนเกียร์ ไปๆ มาๆ ระหว่้างติดไฟแดง? เราต้องเข้าใจการทำงานที่เกิดขึ้นภายในชุดเกียร์ ของตำแหน่ง N และ D กันก่อน


ภายใน ลูก Torque Converter ในแนวนอน 

ภายในลูก Torque Converter ในแนวตั้ง

1. หากตำแหน่งเกียร์ ของคุณ อยู่ที่ เกียร์ N หรือ Neutral เกียร์ว่าง

        
เบรคแบนด์ และคลัชต์ทุกชุดจะอยู่ในตำแหน่งลอยตัว หมุนฟรี ปราศจากแรงขับดัน ไฮโดรลิค จากลูกทอร์ค คอนเวอร์เตอร์  (เมื่อ เครื่องยนต์ อยู่ในรอบเดินเบา ช่วง 750-1,000 รอบ/นาที ชุด Impeller turbine จะไม่เหวี่ยงสลัดแรงดันน้ำมันไฮโดรลิค ไปที่กลีบร่อง สเตเตอร์

Slator ปกติแล้ว จะทำงาน โดยหมุนไปทางขวา

ดังนั้น แรงขับดันของ ทอร์ค คอนเวอร์เตอร์ ที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด จึงผ่านเข้าไปตาม ชิ้นส่วนต่างๆที่เคลื่อนไหวได้ หรือ moving part
ตัดการทำงานของคลัชต์ทุกชุด รวมถึงปล่อย เบรกแบนด์ ให้ลอยตัว) หรือเรียกว่า Free Load Pressurize ก็ได้

2. หากตำแหน่งเกียร์ ของคุณ อยู่ที่ เกียร์ D หรือ Drive ขับเคลื่อน

ทันทีที่โยกคันเกียร์ เข้าไปที่ D ในรถรุ่นต่างๆ บางรุ่น
อาจใช้ 1st Speed Shift Valve เปิด ทำงานต้นกำลัง (เข้าใจแบบง่ายๆว่า ออกตัวด้วยเกียร์ 1)

แต่ถ้าเป็นรถยนต์ที่มีกำลังสูงๆ  รถขนาดกลาง หรือ ใหญ่ มักจะถูกออกแบบให้ 2nd Speed Shift Valve
เป็นชุดทำงานต้นกำลัง (เข้าใจแบบง่ายๆว่า ออกตัวด้วยเกียร์ 2)

เหตุผลก็คือ เพื่อช่วย ซับอาการกระชาก หรือสะท้าน ขณะออกรถจากจุดหยุดนิ่ง ด้วยกำลังม้าสูงๆ


ภาพของชุดเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ใน Honda Accord รุ่นปี 1995 เครื่องยนต์ 4 สูบ

   แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าตำแหน่ง D ไม่ว่า รถจะออกตัวด้วย เกียร์ 1 หรือ 2 ก็ตาม
- ในรถรุ่นเก่าๆ ที่ใช้ แรงดันน้ำมันไฮโดรลิค ในการเปลี่ยนเกียร์ จะใช้ชุด "Valve Body"...
- ในรถรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้ระบบไฟฟ้าควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ จะใช้ "สมองกลเกียร์ อีเล็กโทรนิคส์"

เพื่อจะสั่งงาน บรรดาชิ้นส่วนอะไหล่ ประเภทเคลื่อนไหวตัวได้ หรือ  Moving parts ดังต่อไปนี้ ให้ทำงาน ชิ้นส่วนที่ว่านั้น มีชื่อเรียกดังนี้

- Manual Valve , Governor Valve , Break Band Control Valve , และวาล์วช่วยควบคุมตัวอื่นๆตามแต่ละรุ่นเกียร์ลูกนั้นๆ

- ชุดคลัชต์ (Clutch) เช่น Reverse Clutch , Oveerum Clutch , 2nd Clutch , 3rd Clutch , 4th Clutch และชุดเพิ่มเติม

- 1st , 2nd และ 3rd Brake band ที่เกียร์บางรุ่น มีมากกว่า 1 Band

- Torque Converter (ทอร์ค คอนเวอร์เตอร์) จะหมุนกำลังขับดันผ่าน Input Shaft ขับชุดเกียร์ต้นกำลัง ให้ขับเกียร์ถ่ายกำลังผ่าน Output Shaft ออกสู่เพลา ให้ไปขับหมุนล้อรถต่อไป

       Valve ต่างๆข้างต้นนี้  บางตัวมาในรูปของ Check ball ลูกกลมๆ บางตัว แบน มีรูจ่ายแรงดันอยู่ตรงกลาง
เช่น Orifice Valve บางตัวเป็นลูกสูบขนาดนิ้วก้อย เช่น Shift Valve Brake band Supply Valve หรือ มอเตอร์ อีเล็กโทรนิกส์ โซลินอยด์ ขนาดจิ๋ว  และอีกสารพัดวาล์ว

ภาพคอมพิวเตอร์กราฟฟิค จำลองภายในชุดเกยร์ของ Audi TT 3.2 Quattro พร้อมระบบ เกียร์แบบ DSG (Direct Shift Gearbox)

เอาละครับ สำหรับคำถามที่ว่า ผลลัพธ์ของการเข้าเกียร์ N-D-N บ่อยๆ อะไรจะเกิดขึ้นนั้น สรุปได้สั้นๆว่า

1. ตำแหน่ง N  อย่างที่อธิบายไว้ด้านบน หากรถจอดนิ่ง อยู่ในรอบเดินเบา การทำงานของชิ้นส่วนต่างๆ หยุดขับดันชั่วขณะ
2. ตำแหน่ง D  ชิ้นส่วนในชุดเกียร์ ประเภท Moving Parts ทั้งหลาย ที่เกี่ยวข้องกับการออกรถ จะทำงานขับแรงดัน ตามที่ผู้ขับขี่เร่งรอบเครื่องยนต์

3. ทุกครั้งที่ ลูก ทอร์ค คอนเวอร์เตอร์ จะหยุดขับแรงดัน (เกียร์ N) และขับแรงดันต่อ (หรือ เกียร์ D)  อัตราแปรผันภายใน Valve body
และภายในห้องเกียร์ จะมีไม่ต่ำกว่า 2-5 bar สำหรับต้นกำลังในการออกรถ เกียร์บางรุ่น ใช้แรงดันที่แตกต่างไปตามลักษณะการใช้งาน เช่น 1.5 - 7.0 bar ก็มี

โปรดสังเกตความแตกต่างระหว่างแรงดันต่ำ จาก 2 bar แล้ววาล์ว จะต้องถูกเปิดด้วยแรงดันสูงถึง 5 bar ในเวลาเพี้ยงเสี้ยววินาทีเท่านั้น!
ทุกครั้งของการเปิด-ปิด ก่อให้เกิดความสึกหรอของ ชิ้นส่วนอะไหล่จำพวก Moving parts ภายในเรือนเกียร์ ทุกชิ้น!

นั่นหมายความว่า หากเข้าเกียร์ N ไป D แล้ว ก็สลับไป N บ่อยๆ  อยู่เป็นนิจ จะเป็นการบั่นทอนอายุการใช้งานของเกียร์อัตโนมัติลงถึง 50 % !!


ดังนั้น ทางแก้ที่ถูกต้อง สำหรับผู้ที่ปรับเปลี่ยนนิสัยในการเข้าเกียร์อัตโนมัติ ผมขอแนะนำว่า...

ควรหาซื้อรถที่ใช้เกียร์ธรรมดา มาขับขี่ จะมันส์อารมณ์สมใจกว่า

 

เครดิต http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=307:-n-d-&catid=80:transmission-master&Itemid=55

 
     
 
 อ่าน[11604]        
 
     
   บทความเกี่ยวกับ รถยนต์ อื่นๆที่น่าสนใจ  
 
 
  หัวเรื่อง อ่าน
การเลือกซื้อรถมือสอง 25155
สีของป้ายทะเบียนรถในประเทศไทย 8849
ยางกับการจอด 7093
การจัดไฟแนนซ์ 11053
รถแต่ง รถซิ่ง ผิดเพราะแปลกตาหรือกระทำผิดจริง 12575
การโจรกรรมรถที่มีอุปกรณ์ป้องกัน 7318
การเคลมประกันรถยนต์ 22073
เรื่องของคลัตช์และการแก้ปัญหา 10894
เทคนิคเลือกฟิล์มกรองแสง 8844
วิธีการป้องกันรถหาย 7818
 
ดูรายการทั้งหมด รถมือสอง รถบ้าน 
 
     
     
 

ติดต่อเรา

บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด

438,438/1-2 หมู่ 1 ตำบลปากคลองบางปลากด

อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ 10290

คลิกเพื่อดูแผนที่ใน google map

โทร : 02-021-2288 ต่อ 1

อีเมล : usedcar@phithan-usedcar.com

ธุรกิจในเครือบริษัท

ฝาก - ขาย shop 2 fun by รักเมืองไทย

จำหน่ายสินค้าเกรดพรีเมี่ยม แบรนด์ Trumq

ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้า

จำหน่ายอะไหล่แท้รถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น

สนามแบด ทรัมแบดมินตัน

ทรัมแท็กซี่ แท็กซี่ให้เช่า

บริการให้เช่ารถยนต์ รายวัน รายเดือน

ธุรกิจอื่น ๆ ในเครือบริษัท

สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2567 บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด